ประวิตร รักษาการ นายกรัฐมนตรี หลัง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ให้ ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ตั้งแต่วันนี้ นอกเหนือ “บิ๊กป้อม” 5 รองนายกรัฐมนตรีรักษาการแทนได้พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เตรียมนั่งรักษาการเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ วันนี้ 24 สิงหาคม 2565 รับคำร้องฝ่ายค้านให้พิจารณาวาระ 8 ปีนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก พร้อมทั้งมีมติ 5 ต่อ 4 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้เป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
เคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีหาก “พล.อ.ประยุทธ์” ถูกศาลฯ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมวาระ 8 ปี ผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน ได้แก่ พลเอกประวิตร ที่จะเข้ามานั่งรักษาการตำแหน่ง “นายก” โดยย้อนไปถึงมติเดิมที่ ประยุทธ์ เคยลงนามในคำสั่งไว้ว่า
หากนายกฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนคนที่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม บุคคลที่จะสามารถมาปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนอกเหนือจาก “บิ๊กป้อม” แล้ว รองนายกรัฐมนตรีอีก 5 คน ที่ประกอบด้วย นายวิษณุ เครืองาม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นายดอน ปรมัตถ์วินัย และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ สามารถเข้ามาทำหน้าที่รักษษการแทนได้เช่นกัน
ขณะที่ในส่วนของการถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวของ พลเอกประยุทธ์ จันรทร์โอชา จะมีการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในประเด็นดังกล่าวอีกครั้งในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามแม้ “บิ๊กตู่” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เจ้าตัวยังทำหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.กลาโหม ปฏิบัติหน้าที่ส่วนดังกล่าวได้ต่อไป เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี เหมือนกับกรณีเก้าอี้นายก
โดยการตอบคำถามนักข่าวของ นายวิษณุ ก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาวันนี้ ระบุ “พล.อ. ประยุทธ์” จะยังสามารถนั่งเป็นลูกน้อง ประวิตร ในที่ประชุมครม.ระหว่างที่ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยได้
ส่องความเห็นชาวเน็ตหลังทราบว่าว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และ ประวิตร นั่งเก้าอี้ นายก
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับวินิจฉัยเรื่อง นายก 8 ปี และ มีมติ 5 ต่อ 4 เสียงสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะวินิจฉัยเสร็จสิ้นและในช่วงเวลาดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทน
หลังจากที่ข่าวดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความเห็นกันเป็นอย่างมาก รวมไปถึงโพสต์ข้อความภายแท็ค #นายกเถื่อน แสดงความดีใจกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกแถลง หลังรับคำร้อง นายก 8 ปี
ศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกแถลง หลังรับคำร้องนายก 8 ปี และสั่งให้ ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้เหตุผลว่าข้อมูลรั่วไหล ไม่ยืนยันว่ารายงานก่อนหน้านี้ถูกหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ ประกาศ ยกเลิกแถลง หลังมีรายงานเกี่ยวมติลงเสียงวินิจฉัย นายก 8 ปี และคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พักปฏับัติงานชั่วคราว โดยให้เหตุผลถึงการยกเลิกแถลงข่าวว่ามีข่าวรั่วออกไป
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องฝ่ายค้านปม นายกประยุทธ์ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และมีมติ 5 ต่อ 4 เสียง ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แทนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คาดว่าจะใช้เวลาเข้าสู่กระบวนพิจารณาแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ดีไม่มีการยืนยันว่ารายงานที่รั่วออกไปก่อนหน้านี้ถูกต้องสมบูรณ์หรือไม่
อย่างไรก็ตามแม้ว่าชาวเน็ตจะดีใจกับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ก็หลายฝ่ายก็ดีใจไม่สุดและแสดงความกังวลหลังจากที่ พล.อ.ประวิตร จะขึ้นทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการแทนในช่วงเวลาดังกล่าว
รวมถึงยังแสดงความเป็นห่วงว่า พล.อ.ประวิตร จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ รวมไปถึงหยิบยกคำพูดของบิ๊กป้อมที่เคยถามหลังยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดว่า “ถ้าผมช็อกตายไปจะทำยังไง” อย่างไรก็ดี คาดว่าจะใช้เวลาเข้าสู่กระบวนพิจารณาแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้
โคฐาภยะ ราชปักษะ อดีตประธานาธิบดีประเทศศรีลังกา มีแผนเดินทางกลับประเทศศรีลังกา หลังไม่สามารถแบกรับ ค่าใช้จ่ายในประเทศไทย ได้อีกต่อไป โดยช่วงเวลาขึ้นอยู่กับข้อตกลงด้านความปลอดภัย
(24 ส.ค. 2565) ได้มีการรายงานกันมาว่า โคฐาภยะ ราชปักษะ อดีตประธานาธิบดีประเทศศรีลังกา เตรียมตัวเดินทางกลับประเทศ หลังจากที่หลบหนีเนื่องจากประท้วงให้ลงจากตำแหน่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยสาเหตุนั้น ก็เนื่องมาจากเจ้าตัวไม่สามารถแบกรับ ค่าใช้จ่ายในประเทศไทย ได้อีกต่อไป
จากการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์นั้น ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าว 2 ราย ได้เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการเดินทางกลับประเทศศรีลังกาของนายโคฐาภยะ โดยเบื้องหลังในความประสงค์เดินทางกลับก็มาจากค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตได้เพิ่มสูงขึ้นมาหลายรูปี (ตามค่าเงินท้องถิ่น) หรือเป็นหลายสิบล้านบาทแล้ว ซึ่งก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายสำหรับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว, ที่พักอาศัย : ห้องสูทหรู และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่คุ้มครองเขาเป็นระยะเวลาตลอด 24 ชั่วโมง
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
